ลงโฆษณา Facebook อย่างไรให้ได้ผลตอบรับที่ดีที่สุด

ลงโฆษณาอย่างไร ให้ได้ผลตอบรับ ที่ดีที่สุด

ปัจจัยในการลงโฆษณาให้ได้ผลตอบรับดี

เลือกช่องทางเพื่อใช้ในการโปรโมท

เนื่องจากช่องทางการตลาดออนไลน์มีหลากหลาย อาทิเช่น Facebook , Line@, Google Adword, Instragram, Twitter ซึ่งเราจำเป็นต้องวางแผนช่องทางการตลาดในแต่ละ Platform เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจสินค้าและบริการแต่ละประเภท ของเรา

 

[ Google Ads ]

หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Google Adwords คือ คำค้น Keywords ใน Google ที่เราต้องการให้ผู้ที่ค้นหา สามารถเจอสินค้าและบริการเรา

ซึ่งนอกจากวางแผนว่าเราต้องการใช้คำค้นใดแล้ว ต้องคำนึงถึงตัวเว็บไซต์ หรือ Landing Page ที่ถูกคลิกจากหน้า Google ไปต่อว่าจะให้แสดงผลไปที่หน้าเว็บใด รวมถึงต้องคิดคำบรรยาย หรือ Text Message ให้สอดคล้องกับคำค้นด้วย

นอกจากนี้ ตัวเว็บไซต์ หรือ Landing Page จะถูกจัดลำดับคุณภาพเว็บด้วย Google หรือ Quality Score นั้นเองยกตัวอย่างเช่น หากเราทำธุรกิจ พัฒนาโครงการ บ้านเดี่ยว แล้วเราใช้ซื้อคำค้นหา “คอนโดมิเนียม” ก็จะทำให้ไม่สอดคล้องกับคำค้น Google ก็จะให้ Quality Score ที่ต่ำ ทำให้ต้องใช้งบในการซื้อโฆษณาที่สูง หรือบางครั้งอาจไม่สามารถซื้อโฆษณาในคำนั้นๆได้เลย

นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้งานหลายท่านที่ “ไม่มีเว็บไซต์” แต่ต้องการส่งลิงก์มายังหน้า “Facebook” ซึ่งส่วนหนึ่ง Google ไม่สามารถตรวจสอบเนื้อหาใน Facebook ได้ละเอียดเท่ากับเว็บไซต์ ทำให้ Quality Score ของผู้ที่ใช้ Facebook เป็น Landing Page จะต่ำกว่าซึ่งหากอธิบายง่ายๆคือ Facebook กับ Google ก็เหมือน “คนละค่าย” การซื้อคำค้นใน Google และให้เชื่อมโยงไป Facebook จึงจะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควรอยู่แล้ว

 

ปัจจุบันถือว่าเป็นช่องทางออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จากอัตราเติบโตของผู้ใช้งานในประเทศไทยที่โตต่อเนื่องทุกปีอย่างไรก็ตาม Facebook นั้นมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งรูปภาพ วีดีโอ ภาพสไลด์ สไลด์โชว์ และอื่นๆ (รูปแบบการขึ้นโฆษณาใน Facebook ทั้งหมด) 

ดังนั้นเราจำเป็นต้องวางแผนและเลือกรูปแบบในการขึ้นโฆษณาเรื่องถึงการเขียนคำอธิบายหรือ Caption ให้สอดคล้องกับธุรกิจเราเพื่อให้สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

อย่างไรก็ตามรูปแบบที่นิยมใช้กันใน Facebook ก็จะเป็น รูปภาพ และ วีดีโอ เพราะจะดึงดูด สะดุดตากว่าโฆษณาที่เป็นข้อความ

โดย Facebook ยังกำหนดพื้นที่ในการขึ้นข้อความ Text บนรูปภาพ ไม่ให้มีมากเกินไป ถ้าหารูปภาพใดมีตัวอักษร หรือ Text มากเกินไปก็จะทำให้ต้องใช้งบโฆษณาที่สูงกว่า หรือบางครั้งก็ไม่สามารถขึ้นโฆษณาได้เลย (เครื่องมือสำหรับตรวจสอบว่ารูปที่เรามี Text มากเกินไปหรือไม่)

นอกจากนี้การที่ความเร็วอินเทอร์เน็ต บนมือถือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ การขึ้นโฆษณาในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว หรือวีดีโอเริ่มเป็นที่นิยมใช้ใน Facebook มากขึ้น และมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่ารูปแบบอื่น

การใช้สถิติวัดผลแทนการตัดสินใจส่วนตัวของบุคคล

ปัจจุบันในยุคดิจิตอล เราสามารถเก็บข้อมูลและมีเครื่องมือวัดผลการขึ้นโฆษณาได้ดีกว่า “การตัดสินใจส่วนตัว” จากในอดีตภาพโฆษณาที่ขึ้นตามป้ายบิลบอร์ด หรือนิตยสาร

ผลงานจะ “ถูกวัด” จาก “เจ้าของงาน หรือ ผู้ออกแบบ” ว่าควรใช้ภาพใดในการทำ โฆษณา แต่ปัจจุบันเราสามารถ ทดสอบรูปภาพ เพื่อวัดผลว่าควรใช้ภาพหรือวีดีโอใด โดยใช้หลัก “สถิติ” มาช่วยในการตัดสินใจ

ดังนั้นรูปภาพจึงถูกนำมาทดสอบโดยกระบวนการ A/B Test เพื่อหารูปที่มีผลตอบรับดีที่สุด และนำรูปดังกล่าว มาใช้ในการขึ้นโฆษณาจริง ซึ่งจะส่งผลทำให้ใช้งบโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี

ตั้งโฆษณาตรงกลุ่มลูกค้าสนใจซื้อบ้าน

“ใบงบประมาณที่เหมาะสม คุ้มค่าสูงสุด ด้วยระบบ A/B Test”

นอกจากนี้การใช้เทคนิค Remarketing/Retargeting ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้การขึ้นโฆษณามีผลตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้น

– บทความโดย –
ทีมงาน จริงใจดี ดิจิตอล ซูโลชั่น
Digital Agency ด้านอสังหาฯ ของไทย