Big Data กับ ธุรกิจอสังหาฯ

Big Data กับ ธุรกิจอสังหาฯ

ในยุคดิจิตอล หลายองค์กรให้ความสำคัญกับ Big Data, Machine Learning และ AI เพื่อนำมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงพัฒนาธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์  เมื่ออินเตอร์เนตมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดข้อมูลมหาศาล ที่สามารถนำมาเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ เพื่อนำมาทำ Big Data ได้

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ การทำ Big Data ก็คือ การเอาข้อมูล (Data) ที่มีจำนวนมากๆ จับมารวมกัน แล้วนำมาทำให้เกิดประโยชน์ ซึ่งอาจจะเป็นในแง่ของการสร้างคุณค่า (Value) หรือ อาจจะนำมาใช้สำหรับ ช่วยแก้ปัญหา ถือเป็นการใช้ข้อมูลที่มีเอามาต่อยอดทางธุรกิจ

ประโยชน์ของเรื่อง Big Data ที่มีต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์นั้น นอกจาก ทำให้เข้าใจสภาพตลาด เพื่อวิเคราะห์ความต้องการและพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และนำข้อมูลกลับมาใช้สำหรับปรับกลยุทธ์ทางการตลาด จัดโปรโมชั่น หรือแม้แต่ พัฒนาโปรดักส์ใหม่ๆให้ถูกใจผู้บริโภค

ข้อมูลจาก Big Data ยังสามารถนำมาใช้ในการ Forecasting เพื่อทำนายกำลังซื้อหรือแนวโน้มความต้องการของอสังหาฯในแต่ละพื้นที่ได้อีกด้วย เพื่อใช้สำหรับในการวางแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในทำเลใหม่ๆ

นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลจาก Big Data มาช่วยศึกษา ด้านประชากรศาสตร์ ได้อีก เนื่องจากที่อยู่อาศัยถือว่าเป็นปัจจัย 4 ดังนั้น Big Data ในธุรกิจอสังหาฯ ยังสามารถนำมาใช้สำหรับข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ หรือ การทำนายแนวโน้มการเคลื่อนย้ายของประชากร

รวมถึงยังสามารถแยกประเภทกำลังซื้อ ที่สะท้อนจากความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยจากราคาบ้าน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดได้ในธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น จะรู้ว่าทำเลไหนควรตั้งปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า จุดรับส่งสินค้า (Kerry) ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ร้านแอร์ ร้านจัดสวน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าการมีข้อมูลหรือ Data ปริมาณมากๆจะสามารถนำมาทำ Big Data ได้ แต่จำเป็นต้องเป็นข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ หรือเป็น Structured Data มีการแยกประเภทอย่างชัดเจน เช่น Customer Segmentation Model ซึ่งเป็นการใช้ Data ในการแบ่งกลุ่มของลูกค้า จากพฤติกรรมของลูกค้า

ยกตัวอย่างเช่น หากเราเก็บข้อมูลว่า มีผู้สนใจซื้ออสังหาฯในจังหวัดกรุงเทพฯ ในแต่ละเดือนปริมาณมากเท่าไหร่ ก็อาจจะไม่เป็นข้อมูลที่เพียงพอในการนำไปใช้วิเคราะห์ได้จริง เนื่องจาก กรุงเทพฯนั้นมีความต้องการซื้ออสังหาฯ แต่ละประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม บ้านแฝด ในแต่ละทำเลที่แตกต่างกัน

ตลอดจนระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลซึ่ง ธุรกิจอสังหาฯนั้นจะมีวัฏจักรหรือ Seasoning อยู่ เช่น ช่วงปลายปี คนส่วนใหญ่อาจได้โบนัส ทำให้มีกำลังซื้อสูงกว่าในช่วงกลางปี ดังนั้นถ้าหากเก็บข้อมูลมาแค่บางเดือน แล้วนำมาวิเคราะห์ธุรกิจ ก็จะส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนและเสียหายเป็นอย่างมาก

ด้วยความสำคัญของ Big Data ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทีมงานจริงใจดี ได้เล็งเห็นและได้ให้ความสำคัญ … ในฐานะที่เป็น บริษัทด้าน Media Agency ที่มี Platform ของตัวเอง … เราจึงมีการเก็บ Data อย่างต่อเนื่องทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ โดยเราพยายามทำให้ครอบคลุมในทุกมุมของธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งมีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ ในทุก Platform เพื่อต่อยอด สู่การทำ Big Data ด้านอสังหาฯ ในอนาคต

ดูว่าเราวางแผนทำ Big Data อย่างไร >>> คลิก

– บทความโดย –
ทีมงาน จริงใจดี ดิจิตอล ซูโลชั่น
Digital Agency ด้านอสังหาฯ ของไทย